Highlight

• SMEs และ Startups มีบทบาทอย่างยิ่งต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ตาม ปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญอันได้แก่ การขาดความรู้พื้นฐานในการทำธุรกิจ ความสามารถในการเติบโตธุรกิจ ตลอดจน ข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ทำให้บริษัทกลุ่มนี้ขยายธุรกิจและเติบโตได้อย่างลำบาก
•  โดยล่าสุดสำนักงาน ก.ล.ต.ได้ออกประกาศรองรับให้ SME และ Startup เสนอขายหุ้นต่อผู้ลงทุนในวงกว้างได้ และสามารถนำหุ้นเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดรองแห่งใหม่ที่เรียกว่า LiVE Exchange ที่คาดว่าจะเริ่มเปิดให้ซื้อขายได้ในช่วงไตรมาส 2/2565 เป็นอย่างเร็ว
• การกำกับดูแล LiVE Exchange จะเป็นแบบ Light Touch Supervision ซึ่งจะมีการลดกฎเกณฑ์บางอย่าง เพื่อลดภาระหรือต้นทุนในการเข้าระดมทุนให้กับผู้ประกอบการ อาทิเช่น คุณสมบัติผู้ระดมทุน กระบวนการเสนอขาย หน้าที่ภายหลังจดทะเบียน ขณะที่ฝั่งผู้ลงทุนก็มีกฎเกณฑ์รองรับเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน
• ในส่วนของการซื้อขายนั้น การซื้อขายใน SET mai และ LiVE Exchange มีลักษณะที่แตกต่างกันอยู่หลายอย่าง อาทิเช่น บัญชีซื้อขายของ LiVE Exchange เป็นแบบ Cash Balance (Prepaid100%) ทำซื้อขายวันละรอบ การชำระราคาและส่งมอบแบบ Gross Settlement ภายในวันที่ T
• บริษัทหลักทรัพย์ถือเป็นตัวกลางที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน LiVE Exchange ได้หลายทาง ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯก็ได้มีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็น pilot broker เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่ LiVE Exchange จะเปิดทำการซื้อขายในอนาคตอันใกล้นี้