หมวดที่ 3 : สมาชิกและสมาชิกภาพ หมวดที่ 4 : ค่าบำรุงชมรม
หมวดที่ 5 : สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก หมวดที่ 6 : การประชุมสมาชิก
หมวดที่ 7 : คณะกรรมการชมรมและการบริหารชมรม หมวดที่ 8 : การลงโทษสมาชิก
หมวดที่ 9 : การเงินและการบัญชี หมวดที่ 10 : การแก้ไขข้อบังคับของชมรมและการเลิกชมรม
หมวดที่ 11 : บทเฉพาะกาล
ข้อ 1. ชมรมนี้มีชื่อว่า "ชมรมผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย"
มีชื่อภาษาอังกฤษว่า "ASCO Selling Agent Club”
คำว่า "ชมรม" ต่อไปในข้อบังคับนี้ให้หมายถึง "ชมรมผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน"
คำว่า "คณะกรรมการ" ต่อไปในข้อบังคับนี้ให้หมายถึง "คณะกรรมการของชมรมผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน"
คำว่า "กรรมการ" ต่อไปในข้อบังคับนี้ให้หมายถึง "กรรมการของชมรมผู้ประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน"
ข้อ 2. สำนักงานของชมรมตั้งอยู่ ณ ที่ทำการของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย
ข้อ 3. ในกรณีที่มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยหรือตีความเกี่ยวกับข้อบังคับนี้หรือการดำเนินการของชมรม ให้คณะกรรมการเป็นผู้วินิจฉัยหรือตีความแล้วแต่กรณี
ข้อ 4. วัตถุประสงค์ของชมรมมีดังต่อไปนี้
4.1 ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน รวมถึงธุรกิจจัดการลงทุนและอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน
4.2 ส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานการปฏิบัติงานการประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุนทั้งด้านหลักการและด้านปฏิบัติ
4.3 เป็นตัวแทนของสมาชิกเพื่อให้ความร่วมมือและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอันที่จะพัฒนาธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน รวมถึงธุรกิจจัดการลงทุนและอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน
4.4 กำกับดูแลสมาชิกของชมรมให้ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ และจรรยาบรรณของชมรมและหรือมติที่ประชุมสมาชิกในการประกอบธุรกิจที่ทางชมรมได้กำหนดขึ้น
4.5 ประสานความร่วมมือระหว่างสมาชิกในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน รวมถึงธุรกิจจัดการลงทุนและอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน รวมทั้งการประนอมข้อพิพาทระหว่างสมาชิก หรือกับบุคคลภายนอกอันเกี่ยวเนื่องกับการประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน รวมถึงธุรกิจจัดการลงทุนและอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน
4.6 ส่งเสริมการศึกษา วิจัย และการเผยแพร่ข่าวสารทางวิชาการและข่าวสารเกี่ยวกับนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน รวมถึงธุรกิจจัดการลงทุนและอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน ให้สมาชิกรับทราบ
ข้อ 5. สมาชิกของชมรม ได้แก่ บริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และมีการประกอบธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหน่วยลงทุนซึ่งคณะกรรมการพิจารณาผ่อนผันให้เป็นรายกรณี (ต่อไปนี้จะเรียกว่า "สมาชิก")
สมาชิกแต่ละรายมีสิทธิแต่งตั้งบุคคลเป็นผู้แทนหลักและผู้แทนสำรองของตนเพื่อการใช้สิทธิของสมาชิกตามข้อบังคับนี้ได้เป็นจำนวนไม่เกินสองคนโดยแจ้งต่อเลขาธิการชมรมเป็นลายลักษณ์อักษร โดยผู้แทนหลักของสมาชิกจะต้องเป็นผู้บริหารระดับสูงในสายงานที่เกี่ยวกับธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เป็นหน่วยลงทุน หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหน่วยลงทุนของบริษัทสมาชิกชมรมตามวรรคหนึ่ง ส่วนผู้แทนสำรองจะแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งเป็นผู้บริหารไม่เกินลำดับที่สองรองจากผู้แทนหลัก
ข้อ 6. บริษัทที่มีคุณสมบัติตามข้อ 5. ซึ่งมีความประสงค์จะสมัครเข้าเป็นสมาชิกของชมรม ให้ยื่นใบสมัครต่อเลขาธิการชมรมตามวิธีการที่ชมรมกำหนด และให้เลขาธิการชมรมนำใบสมัครนั้นเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณาคำขอเข้าเป็นสมาชิก โดยเมื่อคณะกรรมการมีมติให้รับหรือไม่รับผู้ใดเข้าเป็นสมาชิก ให้เลขาธิการชมรมมีหนังสือแจ้งให้ผู้สมัครนั้นทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่คณะกรรมการลงมติ
ข้อ 7. สมาชิกภาพเริ่มตั้งแต่วันที่ผู้สมัครได้ชำระค่าบำรุงชมรมเรียบร้อยแล้ว
ข้อ 8. สมาชิกย่อมพ้นจากสมาชิกภาพในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
8.1 สมาชิกแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรขอลาออกจากชมรม
8.2 คณะกรรมการมีมติให้พ้นจากสมาชิกภาพ ในกรณีดังนี้
8.2.1 สมาชิกขาดคุณสมบัติตามข้อ 5
8.2.2 สมาชิกไม่ชำระค่าบำรุงรายปี
8.2.3 สมาชิกฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง หรือจรรยาบรรณของชมรม ตามข้อบังคับของชมรมหมวดที่ 8 ข้อ 27
8.3 ที่ประชุมสมาชิกมีมติให้พ้นจากสมาชิกภาพด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม
ข้อ 9. สมาชิกจะต้องชำระค่าลงทะเบียนแรกเข้าและค่าบำรุงชมรม ดังนี้
9.1 ค่าลงทะเบียนสมาชิกแรกเข้าเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท และชำระค่าบำรุงรายปีโดยในปีแรกที่มีการจัดตั้งชมรมในอัตรา 10,000 บาท(ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และในปีถัดไปให้เรียกเก็บในอัตราที่คณะกรรมการชมรมกำหนด แต่ไม่เกินปีละ 20,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ทั้งนี้ ให้ยกเว้นค่าลงทะเบียนสมาชิกแรกเข้าสำหรับบริษัทที่เป็นสมาชิกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย
9.2 การชำระค่าบำรุงรายปีของสมาชิกรายใหม่ ให้ใช้หลักเกณฑ์ต่อไปนี้
9.2.1 ระยะเวลาที่เข้าเป็นสมาชิกในปีแรกน้อยกว่า 6 เดือน ให้ชำระค่าบำรุงรายปีจำนวนกึ่งหนึ่ง
9.2.2 ระยะเวลาที่เข้าเป็นสมาชิกในปีแรกมากกว่า 6 เดือน ให้ชำระค่าบำรุงรายปีเต็มจำนวน
9.2.3 ให้ชำระค่าบำรุงรายปีภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการมีมติให้รับสมาชิกรายใหม่
การขอผ่อนผันการชำระค่าบำรุงรายปีของสมาชิกใหม่ ให้ขึ้นอยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการชมรม
9.3 สมาชิกต้องชำระค่าบำรุงรายปีของปีถัดไปหลังจากที่มีการจัดตั้งชมรมภายในเดือนมกราคมของทุกปี ทั้งนี้ กรณีมีเหตุจำเป็นคณะกรรมการอาจพิจารณาผ่อนผันได้ตามที่เห็นสมควรเป็นคราวไป
ข้อ 10. สมาชิกมีสิทธิและหน้าที่ดังนี้
10.1 ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ และจรรยาบรรณของชมรม
10.2 แสดงความคิดเห็น และออกเสียงลงคะแนนในที่ประชุม
10.3 พิจารณาส่งผู้แทนเข้าสมัครรับเลือกตั้งเป็นกรรมการ
10.4 ได้รับประโยชน์จากการดำเนินกิจการของชมรม
10.5 ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมของชมรม
ข้อ 11. ให้คณะกรรมการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ปีละ 1 ครั้ง ภายใน 3 เดือน นับแต่วันครบรอบระยะเวลาบัญชีของชมรม
การประชุมสมาชิกคราวอื่นให้เรียกว่าประชุมวิสามัญ ซึ่งคณะกรรมการหรือสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่า 1
ใน 4 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดจะร้องขอให้คณะกรรมการจัดประชุมเมื่อใดก็ได้ โดยแจ้งเหตุร้องขอประชุมเป็น
ลายลักษณ์อักษรโดยส่งทางเอกสาร หรือส่งผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ตามที่ชมรมกำหนดไปยังเลขาธิการชมรม
โดยคณะกรรมการอาจพิจารณาจัดประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใด ตามเงื่อนไข ขั้นตอน ที่กฎหมายกำหนด
ข้อ 12. การประชุมใหญ่สามัญประจำปี ต้องมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดจึงจะครบเป็นองค์ประชุม หากเวลาผ่านพ้นไป 1 ชั่วโมง สมาชิกมาไม่ครบองค์ประชุม ให้เลื่อนการประชุมไปคราวหน้า และให้คณะกรรมการเรียกประชุมใหม่ การประชุมครั้งหลังนี้ แม้สมาชิกไม่ครบเป็นองค์ประชุมก็ให้ดำเนินการประชุมไปได้
ข้อ 13. การประชุมวิสามัญต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดจึงจะครบเป็นองค์ประชุม หากเวลาผ่านพ้นไป 1 ชั่วโมง สมาชิกมาไม่ครบองค์ประชุมก็ให้เลื่อนการประชุมไปคราวหน้าและให้คณะกรรมการเรียกประชุมใหม่ การประชุมครั้งหลังนี้ แม้มีสมาชิกไม่ครบเป็นองค์ประชุมก็ให้ดำเนินการประชุมไปได้ เว้นแต่
ในกรณีของการประชุมวิสามัญที่สมาชิกร้องขอให้คณะกรรมการจัดประชุมนั้น หากสมาชิกไม่ครบเป็นองค์ประชุม
ก็ให้ยกเลิกการประชุมนั้นเสีย
ข้อ 14. การบอกกล่าวประชุมสมาชิก ให้แจ้งแก่สมาชิกล่วงหน้าก่อนการประชุมไม่น้อยกว่า 7 วันทำการ โดยทางจดหมายนำส่ง หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมทั้งแจ้งรายละเอียด วัน เวลา สถานที่ และวาระการประชุม
ข้อ 15. ให้ประธานชมรมเป็นประธานในที่ประชุมสมาชิก
ถ้าประธานชมรมไม่มาประชุมให้รองประธานชมรม หรือบุคคลที่ประธานมอบหมายเป็นประธานในที่ประชุม
ถ้าประธานชมรม รองประธานชมรม และ/หรือบุคคลที่ประธานชมรมมอบหมาย ไม่สามารถมาประชุมได้ ให้สมาชิกเลือกกรรมการคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่แทน
ข้อ 16. ให้สมาชิกแต่ละรายมีคะแนนเสียงรายละหนึ่งเสียง โดยการลงมติให้ที่ประชุมถือคะแนนเสียงข้างมากของสมาชิกซึ่งมาประชุมและออกเสียงลงคะแนนเป็นเกณฑ์ ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมเป็นผู้ชี้ขาด ยกเว้นกรณีที่กำหนดไว้เฉพาะในหมวดที่ 10 เรื่อง "การแก้ไขข้อบังคับของชมรมและการเลิกชมรม"
ข้อ 17. การเลือกตั้งและแต่งตั้งคณะกรรมการ
17.1 ให้มีคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งจำนวนไม่เกิน 11 คน ประกอบด้วยประธานที่มาจากการเลือกตั้งของ
ที่ประชุมสมาชิกจำนวน 1 คน และคณะกรรมการจากการเลือกตั้งของที่ประชุมสมาชิกจากบุคคลที่สมาชิกแต่ละประเภทระหว่างกันเองเป็นผู้เสนอหรือเลือกตั้ง และ/หรือ การแต่งตั้งโดยคณะกรรมการตามข้อ 26 จำนวนไม่เกิน 9 คน ประกอบด้วย ตัวแทนจากบริษัทสมาชิกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยไม่เกิน 5 คน และตัวแทนจากบริษัทอื่นๆ ที่ไม่ใช่บริษัทสมาชิกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยไม่เกิน 4 คน และกรรมการอีก 1 คน คือ เลขาธิการสมาคม เป็นกรรมการและเลขาธิการชมรมโดยตำแหน่ง
17.2 การเลือกตั้งประธานและกรรมการ ให้กระทำโดยสมาชิกเลือกตั้งจากรายชื่อบุคคลที่เสนอโดยสมาชิกตามที่ตนเห็นสมควรให้ดำรงตำแหน่งประธานและกรรมการแล้วแต่กรณีจากบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิรับเลือกตั้ง
ในการเลือกตั้งตามวรรคแรก หากคราวใดมีการเลือกตั้งทั้งประธานและกรรมการให้เลือกตั้งประธานก่อน โดยให้ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดเป็นผู้ที่ได้รับเลือก หากปรากฏว่ามีผู้ที่ได้รับคะแนนสูงสุดมากกว่า 1 คน
ให้ที่ประชุมสมาชิกลงมติใหม่เฉพาะผู้ที่ได้คะแนนเท่ากัน หากปรากฏว่าคะแนนเท่ากันอีก ให้ใช้วิธีจับสลาก
ในการเลือกตั้งกรรมการ ให้ผู้ที่ได้รับคะแนนสูงตามลำดับได้เป็นกรรมการมีจำนวนตามที่คณะกรรมการจะได้กำหนดเป็นคราว ๆ ไป แต่ไม่เกินจำนวนที่ระบุไว้ในข้อ 17.1 ถ้ามีผู้ที่ได้คะแนนเท่ากัน
ในลำดับสุดท้ายที่จะได้เป็นกรรมการคราวนั้น ให้ที่ประชุมสมาชิกลงมติใหม่เฉพาะผู้ที่ได้คะแนนเท่ากัน
หากปรากฏว่าคะแนนเท่ากันอีก ให้ใช้วิธีจับสลาก
17.3 บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิรับเลือกตั้ง ประกอบด้วยบัญชีรายชื่อของบุคคลที่เสนอโดยสมาชิกให้เป็นผู้มีสิทธิ
รับเลือกตั้งในตำแหน่งประธาน และบัญชีรายชื่อของบุคคลที่เสนอโดยสมาชิกให้เป็นผู้มีสิทธิรับเลือกตั้ง
ในตำแหน่งกรรมการ
17.4 ผู้ที่มีสิทธิได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานหรือกรรมการ จะต้องมีคุณสมบัติเป็นผู้แทนหลักของบริษัทสมาชิกตามข้อ 5 โดยผู้ที่มีสิทธิได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานจะต้องมาจากบริษัทสมาชิกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยในสายงานที่กำหนดในข้อบังคับนี้ หากสมาชิกของชมรมรายใดได้รับเลือกตั้งให้เป็นกรรมการหรือประธานของชมรมแล้ว (แล้วแต่กรณี) สมาชิกของชมรมรายนั้นไม่มีสิทธิได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานหรือกรรมการอีกตำแหน่งหนึ่ง
17.5 การเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อรับเลือกตั้งเป็นประธานและกรรมการ ให้เสนอต่อเลขาธิการชมรมก่อนวันประชุมสมาชิกไม่น้อยกว่าสิบวันทำการ และให้เลขาธิการชมรมส่งบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งไปยังสมาชิกล่วงหน้าก่อนวันประชุมสมาชิกไม่น้อยกว่าห้าวันทำการ
17.6 ให้บรรดากรรมการเลือกตั้งกันเองเพื่อดำรงตำแหน่งรองประธาน เหรัญญิก และตำแหน่งอื่น ๆ ตามที่ คณะกรรมการเห็นสมควรกำหนดให้มี
17.7 คณะกรรมการดำรงตำแหน่งคราวละไม่เกิน 3 ปี ในการประชุมสมาชิกสามัญประจำปี กรรมการต้องออกจากตำแหน่งจำนวนหนึ่งในสาม ถ้าจำนวนกรรมการจะแบ่งออกให้ตรงเป็นสามส่วนไม่ได้ก็ให้ออกโดยจำนวน
ใกล้ที่สุดกับส่วนหนึ่งในสาม ให้กรรมการคนที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดเป็นผู้ออกจากตำแหน่ง กรรมการที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระอาจได้รับเลือกตั้งได้อีก
17.8 ความในข้อ 17.4 ข้อ 17.6 และข้อ 17.7 มิให้นำมาใช้บังคับแก่เลขาธิการสมาคม ซึ่งเป็นกรรมการและเลขาธิการชมรมโดยตำแหน่ง
ข้อ 18. ให้คณะกรรมการสามารถพิจารณาแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาคณะกรรมการประกอบด้วยกรรมการสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ตัวแทนจากสมาคมที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ทรงคุณวุฒิอื่น ไม่เกิน 5 คน โดยมีวาระคราวละ 1 ปี
ข้อ 19. ให้คณะกรรมการสามารถพิจารณาแต่งตั้งผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เป็นต้น เข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาในฝ่ายงานต่าง ๆ ของชมรมตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร
ข้อ 20. ให้เลขาธิการชมรมแจ้งรายชื่อประธาน และ/หรือ กรรมการที่ได้รับเลือกตั้งจากสมาชิก พร้อมทั้งแจ้งรายชื่อ คณะกรรมการให้สมาชิกทราบภายใน 30 วันนับแต่วันที่เลือกตั้งเสร็จสิ้นสมบูรณ์
ข้อ 21. การเลือกตั้งกรรมการโดยสมาชิกในที่ประชุมสมาชิกจะกระทำโดยวิธีเปิดเผยหรือวิธีอื่นก็ได้ ทั้งนี้แล้วแต่ที่ประชุมสมาชิกจะกำหนด
ข้อ 22. ให้คณะกรรมการร่วมกันกำหนดและมอบหมายความรับผิดชอบในงานด้านต่าง ๆ ของชมรมภายใน 30 วัน
นับแต่วันที่ได้จัดตั้งคณะกรรมการเสร็จสิ้นสมบูรณ์
ข้อ 23. อำนาจและหน้าที่ของประธานและกรรมการ
23.1 บริหารกิจการของชมรมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
23.2 คณะกรรมการอาจแต่งตั้งที่ปรึกษาของชมรมและคณะอนุกรรมการได้
23.3 คณะกรรมการอาจแต่งตั้งคณะทำงานในเรื่องต่าง ๆ จากสมาชิกหรือบุคคลอื่นที่คณะกรรมการเห็นสมควร
23.4 ให้ประธานชมรมเป็นผู้แทนของชมรมในกิจการอันเกี่ยวกับบุคคลภายนอก และเป็นประธานในที่ประชุมของคณะกรรมการและในที่ประชุมสมาชิก
23.5 ให้เลขาธิการชมรมมีหน้าที่ช่วยเหลือประธานในกิจการทั้งปวงอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของประธานเป็นผู้ปฏิบัติการแทนประธานในขณะที่ประธานไม่อยู่หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือตามที่ประธานจะมอบหมายและมีหน้าที่บริหารงานเอกสารที่เกี่ยวกับการประชุม
23.6 ให้ประธานชมรมประสานงานกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยในการแต่งตั้งหรือมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ของสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยทำหน้าที่รักษาและจดบันทึกบัญชีเกี่ยวกับเงิน ทรัพย์สิน รายรับ-รายจ่ายของชมรม ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่เป็นนายทะเบียนสมาชิก และหน้าที่อื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร
ข้อ 24. การประชุมคณะกรรมการ
24.1 ให้มีการประชุมคณะกรรมการตามที่ประธานชมรมจะเห็นสมควร แต่อย่างน้อยจะต้องมีการประชุมกันทุก 3 เดือนโดยอาจจัดประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีการอื่นใด ตามเงื่อนไข ขั้นตอน ที่กฎหมายกำหนด
24.2 ในการประชุมคณะกรรมการทุกครั้ง ต้องมีกรรมการมาร่วมประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด จึงจะครบองค์ประชุม
24.3 ให้ประธานชมรมเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานไม่มาประชุมให้รองประธานชมรมทำหน้าที่แทน ถ้ารองประธานไม่มาประชุมให้เลือกกรรมการคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่แทน
24.4 มติของที่ประชุมคณะกรรมการให้ถือเสียงข้างมากของจำนวนกรรมการที่มาประชุมเป็นเกณฑ์ ในกรณีที่เสียงเท่ากันให้ประธานที่ประชุมเป็นผู้ชี้ขาด
24.5 คณะกรรมการอาจลงมติเวียนโดยไม่ต้องจัดประชุมในกรณีจำเป็น หากกรรมการส่วนใหญ่อนุมัติการกระทำเช่นนั้น โดยให้กรรมการแต่ละคนลงมติ และส่งมติทางอิเล็กทรอนิกส์มายังชมรม และการลงมติเวียนดังกล่าวจะผูกพัน และมีผลบังคับใช้ในวันที่ได้รับมติจากกรรมการไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของจำนวนกรรมการ โดยให้ชมรมเก็บหลักฐานการลงมติ และให้นำเสนอคณะกรรมการเพื่อทราบในวันประชุมกรรมการครั้งถัดจากการลงมติเวียนมีผลบังคับใช้
ข้อ 25. กรรมการจะพ้นจากตำแหน่ง ในกรณีใดกรณีหนึ่ง ดังต่อไปนี้
25.1 ถึงแก่กรรม
25.2 ถึงคราวออกตามวาระ
25.3 ขาดคุณสมบัติตามข้อ 17.4
25.4 ลาออกจากกรรมการ
25.5 ออกจากบริษัทสมาชิกที่สังกัดในขณะที่ได้รับเลือกตั้ง
25.6 บริษัทสมาชิกที่สังกัดขาดจากสมาชิกภาพ
25.7 ที่ประชุมสมาชิกมีมติให้ถอดถอนด้วยคะแนนเสียง 3 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม
ข้อ 26. ในกรณีที่ตำแหน่งกรรมการว่างลง ซึ่งนอกเหนือไปจากการออกตามวาระในข้อ 17.7 ให้คณะกรรมการพิจารณาแต่งตั้ง หรือกำหนดแนวทางดำเนินการเพื่อให้มีกรรมการเข้าดำรงตำแหน่งแทน โดยกรรมการผู้เข้าดำรงตำแหน่งแทนมีวาระการดำรงตำแหน่งได้เท่ากับกรรมการที่ตนเข้ามาแทนพึงมี ทั้งนี้ ให้กระทำในการประชุมคณะกรรมการครั้งต่อไปตามองค์ประกอบในข้อ 17.1
ข้อ 27. สมาชิกใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง หรือจรรยาบรรณของชมรม คณะกรรมการอาจมีมติลงโทษสมาชิกนั้น ดังต่อไปนี้
27.1 ภาคทัณฑ์
27.2 ระงับการเป็นสมาชิกชมรมชั่วคราว
27.3 ให้สมาชิกพ้นจากการเป็นสมาชิกชมรม
ข้อ 28. ในการพิจารณาความผิดและการลงโทษสมาชิก ให้คณะกรรมการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาข้อร้องเรียนขึ้นคณะหนึ่งเพื่อทำหน้าที่พิจารณาสอบสวนหาข้อเท็จจริงและทำความเห็นสรุปเสนอการลงโทษต่อคณะกรรมการเพื่อสั่งการ ในกรณีที่หากคณะกรรมการมีคำสั่งลงโทษสมาชิกใดแล้ว ชมรมจะแจ้งคำสั่งลงโทษเป็นหนังสือไปยังสมาชิกรายดังกล่าว สมาชิกนั้นอาจยื่นคำขออุทธรณ์การลงโทษต่อคณะอนุกรรมการวินิจฉัยอุทธรณ์ซึ่งแต่งตั้งโดยคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งเพื่อทำหน้าที่วินิจฉัยคำอุทธรณ์ของสมาชิกและทำความเห็นสรุปผลการพิจารณาต่อคณะกรรมการเพื่อสั่งการ คำสั่งการของคณะกรรมการให้ถือเป็นที่สุด
หลักเกณฑ์ วิธีการ การสอบสวนหาข้อเท็จจริงและการวินิจฉัยอุทธรณ์ รวมถึงการได้มา องค์ประกอบ และคุณสมบัติของคณะอนุกรรมการตามวรรคหนึ่ง และวรรคสองให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการกำหนด
ข้อ 29. ให้คณะกรรมการมีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการในการลงโทษสมาชิก และการเปิดเผยการลงโทษได้ตามที่เห็นสมควร
ข้อ 30. บริษัทใดซึ่งถูกระงับการเป็นสมาชิกชมรมชั่วคราวตามข้อ 27.2 อาจขอให้คณะกรรมการยกเลิกการระงับดังกล่าวได้ในกรณีที่ได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัท ผู้บริหาร หรือกรรมการของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำที่เป็นเหตุให้ถูกระงับการเป็นสมาชิก และคณะกรรมการเห็นสมควรให้รับเข้าเป็นสมาชิกได้อีก
ข้อ 31. บริษัทใดซึ่งพ้นจากการเป็นสมาชิกชมรมตามข้อ 27.3 จะขอสมัครเป็นสมาชิกชมรมอีกไม่ได้ ยกเว้นกรณี ดังต่อไปนี้
31.1 ได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัท ผู้บริหาร หรือกรรมการของบริษัท
ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำนั้น ๆ และคณะกรรมการเห็นสมควรให้รับเข้าเป็นสมาชิกได้อีก
31.2 ได้พ้นจากการเป็นสมาชิกชมรมมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปีนับแต่วันพ้นจากการเป็นสมาชิกชมรม
ข้อ 32. การเงินของชมรมให้อยู่ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการ หรือบุคคลที่คณะกรรมการมอบหมาย โดยจะได้รับการสนับสนุนด้าน บุคลากรจากสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย
ข้อ 33. รายได้ของชมรมมาจากการเก็บค่าบำรุงจากสมาชิก รายได้จากการจัดกิจกรรม หรือรายได้จากการจำหน่ายเอกสารทางวิชาการของชมรม
ข้อ 34. ให้คณะกรรมการพิจารณานำเงินของชมรมฝากไว้ ณ สถาบันการเงินที่คณะกรรมการเห็นสมควร โดยแยกออกต่างหากจากบัญชีอื่น ๆ ของทางสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย การเบิกจ่ายเงินจากบัญชีเงินฝากของชมรมทุกครั้ง ต้องมีหลักฐานการอนุมัติโดยการลงลายมือชื่อของกรรมการอย่างน้อย 2 คนร่วมกัน
ข้อ 35. เหรัญญิกของชมรมอาจเก็บรักษาเงินสดย่อยเพื่อการทดรองจ่ายได้ครั้งละไม่เกิน 10,000 บาท และการเบิกจ่ายเงินจากเงินสดย่อยทุกครั้งต้องมีเอกสารหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์
ข้อ 36. ให้คณะกรรมการใช้จ่ายเงินของชมรมได้ตามความจำเป็นเพื่อบริหารงานของชมรม และกิจกรรมของชมรมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์
ข้อ 37. รอบปีบัญชีของชมรมเริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคม และสิ้นสุดในวันที่ 31 ธันวาคม ของทุกปี ให้ผู้ตรวจสอบบัญชีของสมาคมทำการตรวจสอบบัญชีรายรับ-รายจ่าย และงบดุลของทางชมรมแล้วนำเสนอต่อที่ประชุมสมาชิกในการประชุมสมาชิกสามัญประจำปี
ข้อ 38. การแก้ไขระเบียบข้อบังคับของชมรมจะสามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้ด้วยมติของที่ประชุมสมาชิก ซึ่งต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกที่มาประชุม
ข้อ 39. ชมรมจะเลิกได้ด้วยมติของที่ประชุมสมาชิก ซึ่งต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของสมาชิกทั้งหมด
ข้อ 40. เมื่อชมรมต้องเลิกไป ให้มีการชำระบัญชีของชมรม และให้ที่ประชุมสมาชิกคราวนั้นลงมติเลือกตั้งกำหนดตัวผู้ชำระบัญชีเสียด้วย
หากมีทรัพย์สินของชมรมเหลือจากการชำระบัญชี ให้ยกให้แก่สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย
ใน 2 ปีแรกนับจากปีที่ได้มีการประชุมสมาชิกเพื่อเลือกตั้งประธานและคณะกรรมการชมรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มิให้นำความ ในข้อ 17.7 มาบังคับใช้กับการดำรงตำแหน่งและการพ้นตำแหน่งของกรรมการ โดยในการประชุมสมาชิกสามัญประจำปีในปีถัดไป (ปีที่ 1) ให้กรรมการออกจากตำแหน่ง เป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกับหนึ่งในสามโดยวิธีจับสลาก และในการประชุมสมาชิกสามัญประจำปีในปีถัดไป (ปีที่ 2) ให้กรรมการในจำนวนที่เหลือจากการจับสลากออกในการประชุมสมาชิกสามัญในปีก่อนหน้า ออกจากตำแหน่งเป็นจำนวนใกล้เคียงหนึ่งในสองของจำนวนดังกล่าว โดยวิธีจับสลาก และให้ถือว่าการออกจากตำแหน่งโดยการจับสลากเป็นการออกตามวาระ เพื่อให้มีการเลือกตั้งกรรมการใหม่แทนกรรมการที่ต้องออกตามวาระนั้น กรรมการชมรมที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระอาจได้รับเลือกตั้งได้อีก
ทั้งนี้ ความในวรรคหนึ่งมิให้นำมาใช้บังคับแก่เลขาธิการสมาคม ซึ่งเป็นกรรมการและเลขาธิการชมรมโดยตำแหน่ง